ผมหายหัวไปนาน...ไม่ใช่เพราะผมขี้เกียจนะ
มันไม่ใช่ข้อแก้ตัวของผมนะครับกับการที่ผมหายหัวไปนานไม่เข้ามาเขียนบทความอะไรเลยที่เกี่ยวกับปลาสวยงามในblogแห่งนี้
เพราะจริงๆผมก็ยังคงมุ่งมั่นทำอะไรๆเกี่ยวกับปลาสวยงามอยู่เหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ผมเข้าไปคลุกอยู่ใน www.thaifancyfish.com
เลยไม่มีเวลามาเขียนบทความต่างๆในblogแห่งนี้
แต่วันนี้ผมพอจะมีเวลาหลังจากอู้งานประจำที่ต้องทำในวันเสาร์-อาทิตย์เลยรีบมานั่งเขียนblogก่อนที่จะหมดเวลาอย่างที่ผมเขียนไว้ในบทความแรกๆของblogนี้ว่าโดยส่วนตัวผมชอบปลากัดมาก
เพราะผมถือว่าปลากัดเป็นปลาไทยที่สามารถไปยืนประกาศตัวอยู่ในตลาดปลาสวยงามของโลกได้อย่างเต็มความภาคภูมิของคำว่าประเทศไทย
และตอนนี้มีความเคลื่อนไหวอยู่ในวงการคนเลี้ยงปลากัดสวยงามที่ได้มีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็น"สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดสยาม"
อันที่จริงสมาคมอนุรักษ์และพัฒนนาปลากัดสยามก็ตั้งกันมากว่า2-3ปีแล้วและได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงล้มลุกคลุกคลานกันมาตลอดด้วยเพราะขาดบุคลกรและเงินทุนหมุนเวียนดังนั้นการทำงานที่นี่จึงต้องทำด้วยใจ... ใจเท่านั้นเพราะไม่มีเงินเดือนไปไหนทำอะไรก็ต้องทุนส่วนตัว
จึงทำให้ที่ผ่านมาผลงานของสมาคมจึงน้อยและเงียบมากผิดกับความตั้งใจของเหล่าสมาชิกและผู้ที่คอยลุ้นอยู่ภายนอก
แม้นจะล้มๆลุกๆแต่ก็ต้องยอมรับจิตใจของกลุ่มผู้บริหารสมาคมทุกคนตั้งแต่ชุดแรกจนถึงปัจจุปันว่ามีจิตใจที่จะต่อสู้เช่นเดียวกับปลากัด
นักสู้จากสยามกระทั่งมาถึงวันนี้วันที่สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดสยามที่ผ่านลมฝนและพายุอุปสรรคเดินทางมาอีกก้าวที่เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับภายใต้การนำของนายกสมาคม พลโท.ทวีเกียรติ โกไศยกานนท์ ความก้าวหน้าของสมาคมกับความตั้งใจที่จะพัฒนาและช่วยเหลือเกษตกรผู้เพาะเลี้ยงปลากัดให้ลืมตาอ้าปากได้ก็ใกล้ความจริงขึ้นไปอีกขั้นโดยมีข่าวที่ผมทราบจากเพื่อนๆว่าปลายปีนี้จะมีการเปิดตัวสมาคมอย่างเป็นทางการและก่อนสิ้นปีก็จะมีงานสำหรับคนรักปลากัดที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งนั่นหมายถึงงานที่เป็นของคนปลากัดเพื่อคนปลากัดอย่างแท้จริง
ทุกอย่างกำลังก้าวเดินเริ่มนับ1...2...3...ดังนั้นปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดสยามเพียงลำพังอีกต่อไปแต่มันอยู่ที่เราคนไทยด้วยกันเองที่ช่วยเหลือ ประคับประคอง ปกป้องร่วมมือ หรือจะเตะตัดขาทำลายกันเอง ผมฝากเอาไว้ให้คิดเราคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติไหนในโลกและปลากัดเป็นปลาของไทยแล้วเราคนไทยต้องยอมเป็นขี้ข้าเขาเพียงเพราะเราต้องการเงินหรือชื่อเสียงจอมปลอมจากต่างชาติมากว่าคำว่ารักและหวงแหนเพราะนี่คือสมบัติของแผ่นดิน
ผมจึงฝากให้เขาซื้อบ่อรองปูนสำหรับเลี้ยงปลามาให้ด้วยตอนแรกลุงช่างแกไม่รู้จัก
ผมก็อธิบายว่ามันก็เหมือนบ่อส้วมนั่นล่ะ
แต่เขาทำไว้สำหรับเลี้ยงปลา แกก็พยักหน้างึกๆเข้าใจๆ
แล้วลุงช่างก็เข้าใจจริงๆล่ะครับ เพราะแกซื้อรองส้วมมาให้
ฮื่อๆ...เลยเดือดร้อนต้องมานั่งโปกปูนปิดก้นบ่อส้วมเพื่อทำเป็นบ่อเลี้ยงปลา
ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการดูแลและทำความสะอาด
โดยส่วนใหญ่บ่อรองปูนในการเลี้ยงปลาสวยงามนั้นเรามักจะวางไว้นอกบ้าน
ในที่ๆโล่งและแน่นอนมันจะต้องเจอกับแดด ลม และสำคัญคือฝน
เพราะหากฝนตกมากๆรองปูนเราไม่มีท่อน้ำล้นจะทำให้น้ำเต็มบ่อจนล้น
นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรแต่หากว่าปลาสวยงามของคุณมันไม่ไหลไปกับน้ำเสียก่อนล่ะ
มันคงเป็นหายนะแน่ๆโดยเฉพาะกับผู้ที่เลี้ยงปลาสวยงามเชิงธุรกิจดังนั้นท่อน้ำล้นจึงจำเป็นสำหรับบ่อที่ใช้เลี้ยงปลาสวยงาม
ผมขอยกตัวอย่างที่บ้านของผมเอง
บ่อผมมีท่อน้ำล้นดังนั้นเวลาผมรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านผมก็จะถือโอกาสฉีดน้ำเข้าบ่อไปด้วย
ทำให้เกิดการถ่ายเทของน้ำ ข้อสำคัญมันสะดวก อิๆ
อีกอย่างหนึ่งในกรณีฝนตกหากบ่อของคุณเก็บน้ำฝนเอาไว้แต่ไม่การไหลเวียนออกของบริมาณน้ำใหม่และเก่า
ปลาของคุณก็อาจจะช็อคตายหรืออาจจะเกิดโรคต่างๆตามมา
ซึ่งหากปลาคุณป่วยเป็นโรคคุณต้องเข้าใจว่าในบ่อแบบที่ไม่การไหลเวียนของน้ำนั้น
โรคมันจะระบาดอย่างรวดเร็วและก่อนที่คุณจะรู้ตัวปลาสวยงามของคุณมันอาจจะตายหมดบ่อเรียบร้อย
4.ตบแต่งบ่อรองปูนให้ดูสวยแบบธรรมชาติ
ข้อดีของบ่อรองปูนสำหรับเลี้ยงปลาสวยงามอีกประการหนึ่งคือเรื่องของความสวยงามที่เราสามารถตบแต่งได้
ให้มีสภาพใก้ลเคียงกับแหล่งน้ำธรรมชาติ ทั้งบรรยากาศรอบๆบ่อและภายในบ่อ
จัดเป็นมุมพักผ่อนที่ดีอีกมุมหนึ่งของบ้าน คุณอาจจะทำระบบน้ำวน
ทำน้ำตกเพื่อฟังเสียงน้ำหรือปลูกต้นไม้รอบๆบ่อตั้งโต๊ะสำหรับนั่งจิบกาแฟก็ได้เพราะบริเวณที่ตั้งบ่อรองปูนมักจะเย็นสบายกว่าตู้ปลาทั่วไป
สรุปแล้วบ่อรองปูนถือเป็นอุปกรณ์ที่เลี้ยงปลาสวยงามได้ดีอีก
อย่างหนึ่ง และสามารถตบแต่งให้สวยงามได้
อีกทั้งยังสามารถใช้เลี้ยงปลาสวยงามในเชิงการค้าได้อย่างดี
เพราะมีต้นทุนที่ต่ำนั่นเอง
อาชีพอิสระ "เปิดร้านขายปลาสวยงาม"
ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังสับสนวุ่นวาย หลายคนและหลายครอบครัวอาจจะมีปัญหาเรื่องการเงินบ้าง(ผมก็เป็น) หลายๆครั้งผมนั่งมองตัวเองว่าจะทำมาหากินอะไรดี เพราะชีวิตเราตอนนี้มันไม่ใช่เด็กๆที่เที่ยววิ่งเล่นโดยไม่ต้องสนใจอะไร เมื่อตอนที่พวกเรายังเป็นเด็ก ผมว่าพวกเราหลายคนคงไม่ต้องลำบากปากกัดตีนถีบอะไร จะมีเงินใช้มั้ย จะมีข้าวกินหรือเปล่า เราคงไม่ต้องคิด ปล่อยภาระเหล่านี้ให้พ่อแม่เราเขาเป็นคนคิด แต่มาถึงตอนนี้เราจะมานั่งเฉยเหมือนตอนเราเป็นเด็กคงไม่ได้อีกแล้ว เราหลายคนต้องรับผิดชอบตัวเอง ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ผมคงเป็นหนึ่งที่ตกอยู่ในสภาพแบบนั้น แม้นจะไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใครมากมายแต่อย่างน้อยผมก็ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตและลมหายใจของตัวเอง มาถึงวันนี้ผมมานั่งทบทวนว่าอาชีพอะไรที่ผมจะทำเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเอง ไม่เป็นภาระของพ่อแม่ อาชีพอะไรที่ผมรักและคิดว่าผมมีความสุขเมื่อได้ทำมัน และมันต้องไม่ใช้เงินลงทุนมากนัก อีกหนึ่งอาชีพที่เราคนไทยผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากนัก และอาชีพนี้หากเราขยันหมั่นหาความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งหากบ้านเรามีเนื้อที่พอประมาณ เราก็สามารถที่จะเพาะพันธุ์ปลาสวยงามของเราออกขายเอง เป็นการลดต้นทุนอย่างหนึ่งในการเปิดร้านเล็กๆ ดังนั้นผมจึงอยากจะลงแนะนำผู้ที่กำลังอยากจะทำร้านค้าเล็กๆลองมองดูอาชีพขายปลาสวยงามดูนะครับ ผมว่าอาชีพนี้ไม่ต้องลงทุนสูง และสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจได้อย่างหยั่งยืน
เปิดร้านขายปลาสวยงาม
เงินลงทุน ครั้งแรกประมาณ 20,000 - 30,000 บาท รายได้ ตู้เลี้ยงปลา เครื่องทำออกซิเจน ตู้พักปลา กระชอนช้อนปลา เครื่องดูด/ ถ่ายน้ำ เครื่องกรองน้ำ อาหารปลาและอุปกรณ์ประดับตู้ปลา แหล่งจำหน่ายพันธุ์ปลา/อุปกรณ์ บางบัว เขตบางเขน สวนจตุจักร วิธีดำเนินการ 1. หาซื้อตู้เลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ประมาณ 2-3 ตู้ แล้วล้างน้ำให้สะอาด 2. นำตู้ปลาไปตั้งในที่จัดเตรียมไว้ บรรจุหิน ปะการังและต้นไม้น้ำ ตกแต่งให้สวยงาม ติดตั้งเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำออกซิเจนลงในตู้ 3. ใส่น้ำลงในตู้ปลาให้เกือบเต็ม โดยใช้เครื่องดูดน้ำจากน้ำสะอาดที่เตรียมไว้แล้วในอีกภาชนะหนึ่ง 4. นำพันธุ์ปลาที่เป็นที่นิยมของตลาด เช่น ปลาเงินปลาทอง ปลาคราฟ ปลาบอลลูน ปลาเทวดา ฯลฯ มาใส่ในตู้พักปลา เพื่อปรับสภาพหลังการเคลื่อนย้าย 5. เมื่อปลาแข็งแรงดีแล้วใช้กระชอนค่อย ๆ ช้อนปลาลงในตู้ปลาที่จัดเตรียมไว้ในปริมาณที่เหมาะสมกับเนื้อที่ว่างของตู้ 6. ให้อาหารปลาเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่พอเหมาะวันละ 1 ครั้ง หากปลากัดกันให้แยกออกหรือปลาเป็นโรค ให้แยกปลาไว้ต่างหากแล้วใช้ยารักษา และเปลี่ยนน้ำใหม่ในตู้ปลาหมั่นเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาทุกวัน ตลาด/แหล่งจำหน่าย ย่านชุมชนหรือใกล้สถานศึกษา สถานที่ให้คำปรึกษา1. สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงาม กรมประมง โทร. 0-2558-01722. ประมงจังหวัดทุกจังหวัด ข้อแนะนำ 1. ผู้ประกอบอาชีพนี้ควรเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของปลา โดยศึกษาจากหนังสือหรือสอบถามผู้มีความรู้ เพื่อสามารถเลี้ยงได้ถูกวิธีและแนะนำลูกค้าได้ 2. น้ำที่ใส่ในตู้ปลาหากจำเป็นต้องใช้น้ำประปา ควรรองน้ำทิ้งไว้ก่อนนำไปใช้ 3. ควรมีอุปกรณ์ประดับตู้ปลา อาหาร และยารักษาปลา จำหน่ายร่วมด้วยเพื่อเพิ่ม รายได้
ต้องยอมรับด้วยเหตุผลส่วนตัว ผมเองเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของ ปลากัด
มากกว่า ปลาสวยงาม ชนิดอื่น
และด้วยเหตุผลนี้เองที่นำผมเข้ามาสู่วงการปลาสวยงาม ไม่ใช่ในฐานะพ่อค้า
คนเพาะปลาขาย แต่มาในฐานะของคนที่ชอบ รัก และอยากให้คนอื่นรัก ชอบ
ปลาสวยงาม เหมือนกับเรา ดังนั้น
www.thaifancyfish.com
จึงเกิดขึ้น เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร และข้อมูลการเลี้ยงปลาสวยงาม
รวมถึงเป็นที่ระบายความอัดอั้นตันใจของคนรักปลาทุกคน
อย่างที่ผมกล่าว โดยส่วนตัวผมชอบปลากัด และเลี้ยงปลากัดมากกว่าปลาสวยงามอื่นๆ แต่บางครั้งผมเองก็ยังคงสับสนกับคำว่าว่า ปลากัดสวยงาม เพราะทุกวันนี้เวลาที่ผมเดินเข้าไปในตลาดปลา ไม่ว่าจะที่ซันเดย์ หรือที่สนามหลวงสอง หรือแม้นแต่ตลาดปลาสวยงามแห่งอื่นๆ ผมก็ยังหาความเป็นหนึ่งเดียวของคำว่าปลากัดสวยงามไม่เจอ เพราะมันไร้ซึ่งมาตราฐานกำหนด ไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสีสัน รูปทรง
หรือแม้นแต่ชื่อเรียก ล้วนแต่ทำกันไปแบบมุมใครมุมมัน หากเป็นแบบนี้สังคมปลากัดหรือแม้นแต่ปลาสวยงามชนิดอื่นๆ มันจะเดินไปในทิศทางไหน โดยเฉพาะเมื่อมีการประกวดปลาสวยงาม จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนในความไร้เอกภาพของปลากัด ไม่มีการกำหนดกฏเกณท์ ที่ชัดเจนทำให้มีเพียงพูดประกวดปลาหน้าเดิมๆเท่านั้นที่ส่งปลาเข้าประกวด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านหรือฟาร์มไม่ก็เป็นผู้ส่งออกปลา tran shipper ที่มีการจับปลาเพื่อส่งขายต่างประเทศเท่านั้น และเมื่อมีการตัดสินก็จะมีเสียงบ่นด่าต่อว่า ตามหลังกันมา ไม่เห็นว่าปลาตัวนี้สวยเลย ปลาพรรคพวกกัน ไม่ยุติธรรม หนักหน่อยก็กรรมการตาถั่ว มั่นนิ่ม
มันถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่วงการปลากัดสวยงามจะต้องมีการจัดทำมาตราฐานปลากัดสวยงามไทย ให้เป็นที่ชัดเจน เพราะจะได้เกิดความยุติธรรม และไม่มีปัญหาในการตัดสินของกรรมการ เมื่อมีรูปแบบและมาตราฐานของปลาที่ชัดเจนไม่ว่าจะเรื่องรูปทรงสีสัน ชื่อเรียกชนิดและสายพันธุ์ เมื่อไม่มีความสับสน เรื่องคำครหาก็จะเบาบางลง และที่สำคัญ คนที่จะเข้ามาเลี้ยงปลากัดสวยงามจะได้มีมุมมองที่ชัดเจนในเลือกซื้อปลา และขณะเดียวกันผู้เพาะปลากัด ก็จะได้มีแนวทางในการพัฒนาปลากัด ให้ตรงตามมาตราฐานเพื่อรองรับตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเอาปลามาเลขายให้เสียราคา ผู้ซื้อก็ไม่สับสนว่าปลาที่ซื้อมานั้นดีถูกต้องตามมาตราฐานสายพันธุ์หรือไม่ และเมื่อจะส่งเข้าประกวดกรรมการก็จะได้ตัดสินได้ง่ายขึ้น ไม่เกิดความสับสน หรือโอนเอียงไปเข้าข้างความรู้สึกชื่นชอบส่วนตัวทำไมผมต้องพุ่งเป้ามาที่ปลากัด ไม่ใช่เพราะผมชอบปลากัดมากกว่าปลาสวยงามชนิดอื่น
แต่เพราะปลากัดเป็นปลาสวยงามของไทยแท้ๆที่ขึ้นไปผงาดบนตลาดโลก และเป็นปลาสวยงามที่อยู่ในอันดับต้นๆของนักเลี้ยงปลาสวยงาม
และยังเป็นปลาสวยงามที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดของปรเทศ และด้วยชื่อ Siamese fighting fish ปลานักสู้จากประเทศสยาม ยิ่งทำให้ผมรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องว่า มันคือตัวแทนของประเทศไทย ประเทศของพวกเรา
ปลาทองนั้นพบมากทั่วไปในมหาสมุทรอินเดีย ดำรงชีวิตด้วยการลอยตัวอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ เหนือแนวปะการัง เพื่อจับกินแพลงก์ตอนที่ล่องลอยปะปนมากับกระแสน้ำ ในฝูงของปลาทองแต่ละฝูงนั้น ประกอบไปด้วยปลา ๓ กลุ่มด้วยกัน คือ ปลาตัวเมียที่มีสีเหลืองอมส้ม ปลาตัวเมียนี้จะมีขนาดลำตัวโตไม่เกิน ๗ เซนติเมตร และนับเป็นปลาที่มีจำนวนมากกว่า ๙๐ เปอร์เซนต์ ในแต่ละฝูง
ปลากลุ่มที่ ๒ คือ
ปลาตัวผู้ที่มีลำตัวสีม่วงแดง มีแถบสีเหลืองบนลำตัว และบนครีบหลังมีกระโดงยื่นยาวออกไป ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ปลาตัวผู้มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ขึ้นมาโดยเฉลี่ยประมาณ ๑๒ เซนติเมตร
ส่วนปลากลุ่มที่ ๓ คือ
ปลาตัวเมียในขณะที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นตัวผู้ คือจะมีลักษณะกึ่งกลางระหว่างปลาตัวเมียและตัวผู้ ขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นมันได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปถึงขั้นไหน ในบางครั้งเราจึงอาจจะเห็นปลาทองตัวสีเหลืองอมส้มที่มีครีบหลังยื่นยาวออกมาเหมือนกับปลาตัวผู้ ปะปนอยู่ในกลุ่มของปลาตัวเมีย
ในฝูงของปลาทองฝูงหนึ่ง ๆ นั้น จะมีอัตรส่วนระหว่างปลาตัวเมียและปลาตัวผู้ประมาณ ๑๐ : ๑ เมื่อมีจำนวนสมาชิกตัวเมียในฝูงเพิ่มขึ้น จำนวนของสมาชิกตัวผู้ก็จะเพิ่มขึ้นตาม โดยปลาตัวเมียบางตัวที่แข็งแรงในฝูงนั้นจะปรับตัวเองขึ้นมาให้เป็นตัวผู้ เพื่อให้สมดุลกับอัตราส่วนของสมาชิกในฝูง
สรุปว่าเมื่อแรกเกิดปลาทองทุกตัวจะเป็นปลาตัวเมีย แต่เมื่อเติบโตขึ้นจนเต็มวัยแล้วจะมีปลาเพียงบางตัวเท่านั้นที่จะปรับตัวเองให้กลายเป็นปลาตัวผู้ เมื่อปลาตัวผู้ในฝูงมีจำนวนลดลงหรือมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น
แม้จะฟังดูแปลก ๆ แต่ผมก็เชื่อว่าธรรมชาตินั้นมีเหตุผลสำหรับทุก ๆ กฎเกณฑ์บนโลกใบนี้
วันว่างของผมเองมีค่อนข้างน้อยด้วยเพราะงานที่ต้องทำแบบไม่มีวันหยุด ที่เขียนแบบนี้ไม่เกินเลยนะเพราะวันหยุด ไม่มีจริงๆ เสาร์-อาทิตย์ ก็ยังต้องทำงาน เฮ้อ...เหนื่อยเหมือนกันนะ ฮิๆๆที่บ่นแบบขอความเห็นใจเล็กน้อย เพราะช่วงนี้ผมเองไม่ค่อยจะปรับปรุงเวปไซด์
เมื่อตอนผมยังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยก เที่ยววิ่งเล่นอยู่ตามทุ่งนา ท้องร่องคูคลอง ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีเกมคอมให้เล่นหรือแม้นแต่เกมกดจอขาว-ดำก็ไม่มี(อูย...คนอ่านเริ่มจะนับอายุคนเขียนแล้วล่ะสิ) ดังนั้นการไปไปช้อนจับปลาเอามาเลี้ยงเล่นจึงเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่เด็กต่างจังหวัดอย่างผมชื่นชอบ ต้องบอกก่อนว่าสมัยผมเป็นเด็กนั้นโดยพื้นเพแล้ว ผมเป็นคนปักษ์ใต้ แต่เพราะคุณพ่อรับราชการผมจึงไปอยู่หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะภาคอีสานหรือภาคเหนือ และไม่ว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน ปลา เป็นสิ่งที่ผมมักจะจับมาเลี้ยงเสมอ จนบางครั้งพ่อแม่ก็ชื่นชมด้วยเสียบ่นบนด่า เพราะว่าปลาที่จับมาเลี้ยงส่วนใหญ่มักจะไม่ยอมหายใจโดยการประท้วงอดอาหารจนตาย ทำให้เด็กบ้านนอกอย่างผมอยากรู้เรื่องการเลี้ยงปลาสวยงามว่าเขาเลี้ยงกันแบบไหนปลาถึงจะไม่ตาย แต่ก็ไม่แหล่งข้อมูลให้คันหามากนักนอกจากคนที่เขาเลี้ยงอยู่ก่อนบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งบางเรื่องก็ฟังแล้วก็มีประโยชน์อยู่บ้างแต่บางเรื่องไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
ดูเป็นนิยายมากกว่า แต่เพราะช่วงนั้นผมไม่มีช่องทางอื่นในการหาความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาสวยงามจึงต้องทนฟังนิยายไป...แต่บางครั้งก็สนุกดี...ฮา...ในช่วงที่ผมเริ่มเลี้ยงปลาสวยงามแบบเป็นเรื่องเป็นราวนั้น
ปลาอย่างแรกที่ผมเริ่มเลี้ยงก็คือปลากัด แต่ในสมัยนั้นผมอยู่ทางอีสาน
เมื่อมีเวลาว่างผมก็จะรวมกลุ่มกับเพื่อนไปหาช้อนปลากัดมาเลี้ยง
บางครั้งก็เอามากัดกันบ้างตามประสาเด็กบ้านนอก ปลาของใครกัดชนะก็เดินกร่างกันเลย
ส่วนเพื่อนที่แพ้ก็ต้องเลี้ยงขนม
ผมละจากการเลี้ยงปลาสวยงามไประยะหนึ่งด้วยเหตุผลที่ต้องเรียนมหาวิทยาลัยและทำงานเมื่อเรียนจบจนกระ ทั่งได้มีโอกาสเจอกับญาติที่อยู่ต่างจังหวัด (ลืมบอกไปตอนนี้ผมเป็นกลายเป็นคนกรุงเต๊บ ฮิๆๆ) เขามาชวนผมให้เลี้ยงปลากัดสวยงาม และนั่นคืออีกครั้งที่ผมเห็นปลากัดว่ามันเปลี่ยงแปลงไปขนาดไหน ความคิดตอนนั้นคือ โอ๊ววววว...แม่เจ้าอะไรมันจะงามขนาดนั้น ปลากัดเปลี่ยนไป สวยขึ้น สง่าขึ้น แพงขึ้น และหาจากธรรมชาติได้ยากขึ้น(เวรกรรม)
ผมเขามาคลุกคลีกับปลากัดและปลาสวยงามอีกครั้งอย่างง่ายดายเหมือนคนเคยติดยาแล้วกลับมาเสพใหม่ ในช่วงนั้นผมก็ได้พบกับเพื่อนในวงการปลากัดท่านหนึ่ง คือคุณนธี ซึ่งเป็นคนเพาะและพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดยักษ์ ในยุคนั้นอินเตอร์เน็ทเริ่มเข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตคนไทย ผมจึงนำเสนอเรื่องราวของปลากัดยักษ์ที่คุณนธีพัฒนาขึ้นมาเป็นคนแรกของประเทศ...เอ...หรือของโลก เพราะคุณนธีคือคนแรกที่พัฒนาปลากัดยักษ์แบบเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งในยุคแรกๆเมื่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ท ก็มีแต่เสียงด่าว่าเป็นปลาค้างบ่อ ปลาแก่ หรืออะไรก็แล้วแต่บรรดากูรู(กูรู้ไปหมด)จะอดอ้างภูมิปัญญา ผมเองก็ได้รับอนิสงฆ์เสียงด่าจากกูรูเหล่านี้ด้วย เพราะดันเอาเรื่องปลากัดยักษ์ไปเปิดในโลกอินเตอร์เน็ทบนเวปบอร์ดต่างๆซึ่งบรรดากูรูก็เข้ามาโพสข้อความความคิดเห็นซึ่งส่วนใหญ่คือโจมตี แม้นตอนนั้นพวกคุณนธีและผมจะพยามทำกิจกรรมของปลากัดยักษ์ไม่ว่าประกวดหรือตั้งชมรมแต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบเพราะเราคนไทยด้วยกันเอง นั่นทำให้ผมท้อและถอยออกจากวงการปลาสวย งามไปช่วงหนึ่ง แต่วันนี้ผมกลับมาอีกครั้งก็บอกแล้วเหมือนคนติดยาที่เลิกไม่ได้ผมตั้งใจว่าจะเดินหน้าเรื่องปลาสวยงามไทยโดยเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเรื่องการเลี้ยงปลาสวยงามอย่างถูกวิธี
รวมถึงการทำการตลาดสำหรับผู้ที่อยากเดินบนเส้นทางธุรกิจปลาสวยงาม โดยผ่านเวปไซด์
www.thaifancyfish.com
ผมไม่บังอาจประกาศว่าผมเป็นกูรู (กูรู้ไปหมด)
เพียงแต่ผมเป็นแค่คนที่สนใจเรื่องการเลี้ยงปลาสวยงาม
และอยากให้วงการปลาสวยงามของไทยเป็นวงการที่ผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชมยกย่องว่าเราคือเบอร์หนึ่งของโลกอย่าลืมว่าปลาสวยงามของเราวันนี้แม้นจะเติบโตแต่ก็ไม่แข็งแรง เพราะการช่วยเหลือจากภาครัฐนั้นน้อยมาก แล้วเราผู้ที่นิยมปลาสวยงามไทยจะมาทำตัวเป็นกูรู ถล่มคนไทยด้วยกันเองทำไม ปลาสวยงามวันนี้สวยงามขึ้นกว่าวันวาน แต่ใจคนไทยกลับถดถอยเสื่อมลง
นายปลา
สำหรับผู้ที่สนใจและมีความสามารถในการออกแบบโลโก้
ก็สามารถติดต่อได้กับทางสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดสยาม
กระซิบกันนิดหน่อยงานนี้เงินรางวัลไม่น้อยนะครับ...ขอบอก...
ส่งผลงานประกวดได้ที่ นิตยสารแฟนซีฟิช ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
087-0738299 คุณต่อ , 089-9801588
คุณต้น interfish