Goooooogle Analytics

fancyfish

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

นิสัยของปลา






siamese fighting fish,betta fish,fancyfish,Fighting fish,Betta splendens,fancy fish,gold fish,arowana,pet,pet shop,dog,dog training,cat,ปลาสวยงามของไทย,ปลากัด,ปลาหางนกยูง,ปลาหมอสี,ปลาทอง,ปอมปาดัวร์,อะโรวาน่า,ข่าวสารปลาสวยงาม,การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม,ธุรกิจปลาสวยงาม,

ในสมัยที่ผมเริ่มเลี้ยงปลาใหม่ๆ ความเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงปลานั้นค่อนข้างน้อย ดังนั้นเวลาจะเลี้ยงปลาอะไรพอเห็นว่าถูกใจผมก็จะซื้อมาเลี้ยง พอรุ่งขึ้นที่ปลาที่ผมซื้อมานั้นตายเสียส่วนใหญ่ ที่เหลืออยู่ก็ประเภทเจียนอยู่เจียนไป แล้วมันเพราะอะไรกันล่ะ....ทำไมปลาที่ซื้อมาเลี้ยงมันถึงตาย...มันตายได้ไงกัน
สิ่งเหล่านี้ผมว่ามันอยู่ในความสงสัยของผู้ที่เริ่มเลี้ยงปลากันเกือบทุกคน แล้วเราจะต้องทำอย่างไรก่อนที่จะเริ่มต้นเลี้ยงปลาดีล่ะ...เลี้ยงยังไงไม่ให้ปลาที่เลี้ยงตาย ประเด็นแรกสำหรับการเลี้ยงปลาตู้สวยงามนั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่า เราต้องเตรียมอะไรบ้าง อย่างแรกที่ผมอยากจะแนะนำนั่นก็คือ คุณต้องศึกษาทำความเข้าใจในเรื่องของปลาที่ต้องการจะเลี้ยงด้วย เพราะว่าปลานั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติผู้ที่เลี้ยงปลามักชอบเลี้ยงปลาหลายชนิดไว้ในตู้เดียวกัน ทั้งนี้เพื่อความสวยงามและแปลกตา แต่เราต้องเข้าใจนะครับว่าปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันทั้งด้านนิสัยและเรื่องของอาหารการกิน ดังนั้นหากเราไม่ทำความเข้าใจเรื่องนิสัยของปลา เราก็จะพบกับปัญหา เช่น ปลาเกิดความสามัคคีในกลุ่มจึงชอบยกพวกตีกับกลุ่มอื่นหรือไม่ก็รุมอัดชาวบ้าน...ฮี่ๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ
ผมเขียนมาแบบนี้หลายคนอาจจะบอกว่าส่วนใหญ่จะบอกว่าฉันรู้เรื่องพวกนี้แล้ว ใช่ครับ...คนส่วนใหญ่รู้เรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ประเด็นจริงๆที่ผมจะพูดถึงไม่ใช่เรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กเท่านั้น แต่ผมกำลังจะพูดถึงนิสัยของปลาในการหากินต่างหาก เราเคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมปลาที่เราเลี้ยงมันถึงอ้วนผอมไม่เหมือนกัน ทั้งที่เราก็คิดว่าเราให้อาหารมันได้อย่างพอเพียง นั่นเป็นเพราะปลามีนิสัยที่ต่างกันในการหาอาหาร
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงปลาสวยงามนั้น ไม่ว่าจะเป็นปลาหางนกยูง ปลาทอง ปลาหมอสี ปลาเทวดา ปลากัด หรือปลาอื่นๆ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าปลาแต่ละชนิดมีนิสัยที่ต่างกันอย่างไร โดยหลักการง่ายๆ ปลาแบ่งกลุ่มลักษณะนิสัยออกเป็น 4 กลุ่ม 3 ระดับการหากิน
นิสัยของปลา
ปลานิสัยดีรักสงบ ปลากลุ่มนี้ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง รักสงบไม่ทำร้ายกันเอง ไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียวโดดๆเพราะกลัวเหงา(ฮี่ๆ)หากอยู่ตัวเดียวจะชิงเหงาตายจึงควรเลี้ยงเป็นฝูงเพื่อไม่ให้เหงาจนตาย สำหรับปลากลุ่มนี้หากจะเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นควรหาปลาที่มีขนาดเท่าๆกัน
ปลานิสัยหวงถิ่น เป็นปลากลุ่มประเภทที่ถิ่นข้าใครอย่าแหยม เป็นปลาที่ชอบปักหลักเป็นที่เป็นทาง มักมีอณาเขตเป็นของตัวเอง ปลากล่มนี้ไม่ชอบอยู่ร่วมกับปลาชนิดอื่น นิสัยโดยส่วนตัวไม่ดุร้ายนะแต่หากใครข้ามถิ่นเข้ามาก็มีเรื่อง
ปลานิสัยก้าวร้าว ปลาพวกนี้ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงแล้วไปยกพวกตีกับคนอื่นโฮ่ๆๆ ... (ปลาช่วงกลหรือไงฟะ) แต่พอวันไหนว่างๆไม่รู้จะไปหาเรื่องกับใครก็จะหันมาอัดกันเองคลายเครียด ดังนั้นปลากลุ่มนี้หากจะเลี้ยงรวมกับปลาอื่นควรจะหากปลาที่ตัวใหญ่กว่ามาเลี้ยง
ปลานิสัยดุร้าย พวกปลากลุ่มนี้เป็นนักเลงตัวจริงครับ และมักจะเป็นปลากินเนื้อ ไม่ชอบอยู่ร่วมกับใครหน้าไหน ชอบเป็นพระเอกฉายเดี่ยววันแมนโชว์ ปลาพวกนี้นอกจะหาเรื่องอัดชาวบ้านแล้วแม้นแต่พวกเดียวกันมันก็ไม่เว้น ดังนั้นปลาพวกนี้จึงมักเป็นนักโทษขังเดี่ยวเลี้ยงตัวเดียว แต่หากจะเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น ที่มีความสามารถหลบหลีกว่องไว และตู้ที่เลี้ยงควรมีขนาดที่ใหญ่เพื่อมีพื้นที่ในการหลบหนี อีกทั้งการให้อาหารก็ควรให้อย่างพอเพียงเพื่อป้องกันการแย่งอาหารกัน
การหากินของปลา
ปลาที่หากินตามผิวน้ำ
ปลากลุ่มนี้จะหากินตามผิวน้ำจนถึงกลางน้ำ ชอบกินพวกตัวอ่อนของแมลง หรือพวกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามผิวน้ำ บางชนิดก็กินพืช ปลากลุ่มนี้จะไม่ลงไปหากินที่พื้นน้ำ
ปลาที่หากินตามพื้นน้ำ ปลากลุ่มนี้ไม่ชอบขึ้นมาผิวน้ำบ่อยนัก เป็นที่เวลาเลี้ยงอย่างตามบ่อหรือแหล่งน้ำธรรมชาติเราจะไม่ค่อยเห็นตัว ส่วนใหญ่จะขึ้นมาแค่กลางน้ำ หรืออย่างมากก็ขึ้นมาฮุบอากาศที่ผิวน้ำแล้วมุดต๋อมลงน้ำกลับไป
ปลาที่หากินทุกระดับ ปลากลุ่มนี้หากินทุกระดับของผิวน้ำ เหมือนพวกเร่ร่อนที่หากินไปทั่ว ตรงไหนมีอาหารอุดมสมบรูณ์ก็จะไปหากินที่นั่น โดยมาชอบว่ายอยู่กลางน้ำเพื่อค่อยดูเหยื่อ
เห็นมั้ยครับว่าปลานั้นก็มีนิสัยส่วนตัวซึ่งตรงจุดนี้หากเราเข้าใจก็สามารถที่จะเลี้ยงปลาได้อย่างสบายขึ้น การให้อาหารก็สามารถเลือกอาหารที่มีความเหมาะสมกับปลา ไม่ต้องค่อยระแวงว่าวันนี้จะตายกี่ตัว...และทำไมมันถึงตาย...ขอให้มีความสุขในการเลี้ยงปลาครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ปลาสวยงาม ธรรมชาติใกล้ตัว






siamese fighting fish,betta fish,fancyfish,ปลาสวยงามของไทย,ปลากัด,ปลาหางนกยูง,ปลาหมอสี,ปลาทอง,ปอมปาดัวร์,อะโรวาน่า,ข่าวสารปลาสวยงาม,การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม,ธุรกิจปลาสวยงาม,
เคยสังเกตหรือไม่ว่าเวลาเราเดินผ่านตู้ปลาเรามักจะหยุดดูเสมอๆบางครั้งก็ยืนจ้องดูอยู่นาน บางครั้งก็ยืนดูสักครู่แต่แปลกใจมั้ยทำไมคนเราจึงชอบหยุดดู ทั้งที่บางคนก็ไม่ได้ชอบเลี้ยงปลาเลย นั่นเป็นเพราะว่าปลาสวยงามมีสีสันที่สามารถดึงดูดใจผู้คนที่พบเห็น ช่วยทำให้มีความรู้สึกสบายใจและสดชื่น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนหลายคนเมื่อเดินผ่านตู้ปลามักจะหยุดมองอย่างน้อยก็เว้บหนึ่ง ปลานับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่วไปเพราะมันไม่รบกวนจิตใจคนเลี้ยงและไม่เคยทำความสกปรกในบ้านที่เลี้ยงและไม่มีกลิ่นที่น่าอึดอัดไม่เคยส่งเสียงน่ารำคราญให้กับผู้เลี้ยงและเพื่อนบ้าน และด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เองครับทำให้มีผู้ที่นิยมเลี้ยงปลาสวยงามเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ธุรกิจการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามเติบโต แล้วปลาสวยงามแบบไหนล่ะที่คนไทยนิยมเลี้ยงอันนี้หากพูดกันมันก็ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนเพราะมันแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคลเพราะบางคนก็เลี้ยงปลาหลายชนิดบางคนก็เลี้ยงปลาชนิดเดียว แต่บางคนก็เลี้ยงปลาตามกระแสตลาด ดังนั้นปลาสวยงามที่เป็นที่นิยมของตลาดจึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน บางคนชอบปลาใหญ่บางคนชอบปลาตัวเล็กๆน่ารักโดยส่วนตัวแล้วผมชอบปลาทุกชนิดนั่นล่ะครับแต่ที่เน้นหน่อยก็เห็นจะเป็นปลากัดเพราะความผูกพันในวัยเด็กและอีกอย่างปลากัดเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายใช้พื้นที่น้อยทำให้ที่บ้านผมมีปลากัดอยู่เยอะทีเดียว เริ่มจากหนึ่งตัวสองตัวไปเรื่อยๆ เพาะเองบ้างซื้อเขาบ้างจนช่วงที่ปลากัดมีมากสุดในบ้านก็ราวๆ3-4000ตัว เพราะผมเพาะเอง บ่อเพาะก็มีอยู่70 บ่อ เลี้ยงเยอะจนที่บ้านบอกไปทำมาหากินโดยการขายปลาเลยดีกว่ามั้ย แต่ผมไม่ได้เลี้ยงแค่ปลากัดนะครับยังมีปลาหางนกยูง ปลาหมอสี ปลาปอม ปลาสอด ปลาคราฟ ... ว้า...นอกเรื่องปลาสวยงามกันไปเยอะ เอาล่ะครับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับปลาสวยงามในเมืองไทยที่นิยมเลี้ยงกันนั้น เวลานี้เห็นจะอินเทรนหน่อยก็ต้องปลาหมอสี โดยเฉพาะปลาครอสบรีด ตอนนี้จัดได้ว่าเป็นปลากระแสแรงมากในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา เรียกว่าแซงปลากัดและปลาทองรันชูที่เคยฮิตติดกระแสกับเขาอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วทำไมน้อทำไมเจ้าปลาหมอสีถึงได้มาแรงแซงปลาเลือดเดือดอย่างปลากัด และเจ้าปลากระปุ๊กลุกอย่างปลาทองรันชูไปได้ เหตุผลส่วนหนึ่งเท่าที่ผมพอจะนึกออกนั่นก็น่าจะเป็นเพราะปลาหมอสีนั้นมีขนาดที่ใหญ่ สีสันสดใส มีท่าทางน่ารักๆซึ่งดูขัดกับรูปร่างที่ดูโหดๆ แถมบางตัวมีนิสัยขี้เล่น สามารถเล่นกับผู้เลี้ยง โดยให้จับตัวได้หรือว่ายตามมือ กินอาหารจากมือ อะไรแบบนี้ อีกทั้งเป็นที่น่าท้าทายสำหรับนักพัฒนาสายพันธุ์ปลาด้วย เพราะปลาหมอสีครอสบรีดสามารถพัฒนาทั้งรูปทรง สีสัน ขนาด โหนกหัว ให้มีลักษณะแปลกใหม่ได้อย่างไม่สิ้นสุด อีกทั้งขายได้ราคา (อันนี้เหตุผลใหญ่ที่สุด) ยิ่งเป็นปลาที่มีมาตราฐานสีสันแดงแจ่ม ตบมาร์คกิ้งเด่นๆล่ะก็ราคากระโดดกันไปหลักหมื่นถึงหลักหลายหมื่นทีเดียว บวกกับความเชื่อเรื่องโชครางและเสริมฮวงจุ้ยโหงวเฮ้งของคนจีนอีกทำให้ปลาหมอสีกลายเป็นปลาที่นิยมกันอย่างรวดเร็วในประเทศแถบเอเชีย ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้ทำให้บรรดานักเพาะนักพัฒนาสายพันธุ์ปลาต่างก็ลงมาเล่นปลาหมอสีกัน เรียกว่าบางรายเลิกเพาะปลาที่ตัวเองเคยเพาะมาก่อนเพื่อเน้นที่จะเพาะปลาหมอสีออกสู่ตลาดกันเป็นล่ำเป็นสัน กระทั่งเวลานี้เราลองไปเดินตลาดปลาดูสิครับเราจะเห็นร้านปลาแทบทุกร้านจะมีเจ้าปลาหมอสีครอสบรีดขายจนแทบจะไม่เห็นปลาหมอสีธรรมชาติเลย มีแต่ปลาหมอสีครอสบรีด แต่สัจจะธรรมมันก็มีอยู่จริงในโลกว่า"สิ่งที่แน่นอน คือ...สิ่งที่ไม่แน่นอน" เพราะวันหน้าคงมีปลาชนิดอื่นขึ้นมาขอท้าชกชิงตำแหน่งแชมป์ปลาสวยงามยอดนิยมของเมืองไทยเจ้าเจ้าปลาหมอสีอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นปลาตัวไหนที่จะขึ้นมาท้าชิง...


วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ปลาสวยงามของไทยที่ส่งออกมากที่สุด

ตลาดปลาสวยงามทั่วโลกที่ผ่านมา คนไทยเราแม้นแต่รัฐบาลเองก็ไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก แต่หากผมจะบอกว่าตลาดปลาสวยงามทั่วโลกนั้นมีมูลค่ามากกว่า
6,000 ล้านดอลลาร์ ว้าว...ก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยใช่มั้ย โดยตลาดปลาสวยงามใหญ่ๆของโลกนั้นได้แก่ สหรัฐอเมริกา , ยุโรป, กลุ่มตะวันออก , สิงคโปร์ ,ฮ่องกงและ
ที่อื่นๆอีกทั่วโลก หากแต่ว่าในสถาณะการณ์ปัจจุปันที่ผ่านมาหลายสิบปีนี้ รัฐบาลไม่เคย
ให้ความสนใจกับจำนวนเงินมหาศาลเหล่านี้ปล่อยให้ประเทศสิงคโปร์เป็น
ผู้คว้าพุงปลานี้ไปกินโดยตั้งตัวเองเป็นตัวกลางรับซื้อปลาสวยงามจากผู้ผลิตชาวไทยไปส่งออกทั่วโลก...น่าเสียดาย สำหรับประเทศไทยหากจะย้อนมองดูตัวเอง ประเทศไทยนับเป็นประเทศผู้ผลิตปลาสวยงามรายใหญ่เพราะเรามีความพร้อมทั้งเรื่องพื้นที่ สภาพดินฟ้าอากาศที่ เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ปลาและมีบุคลากรที่มีความพร้อม( แต่ขาดการสนับสนุนตลอด ) แต่หากมีคำถามว่าแล้วปลาอะไรของไทยล่ะที่ส่ง ออกมากเป็นอันดับต้นๆของปลาสวยงาม หลายคนคงนึกถึงปลาราคาแพงอย่าง ปอมปาดัวร์ อะโรวาน่า ปลาหมอสี ...หากจะบอกไปหลายคนคงอึ้งว่าที่จริงแล้วปลา สวยงามที่ส่งออกมากและทำเงินเข้าประเทศปีละสิบหลายร้อยล้านบาทนั้นกลับเป็นปลาตัวเล็กๆอย่างปลากัด ปลากัดนับว่าเป็นปลาพื้นบ้านของไทยที่ได้รับการยอมรับจากนักเลี้ยงปลาสวยงามทั่วโลกว่าเป็นปลาที่มีความสวยงามและมีเสน่ห์ในตัวเอง อีกทั้งปลากัดเป็นปลา ที่เพาะพันธุ์ง่ายและเป็นปลาที่ค่อนข้างมีน้ำอดน้ำทนดีเยี่ยมต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ดังนั้นจึงมีผู้ที่นิยมเพาะเลี้ยงปลากัดเป็นอาชีพกันมากมาย และในปัจจุปันปลา
กัดก็ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนมีความหลากหลายทั้งรูปทรงและสีสันให้มีความสวยงาม และในต่างประเทศเองก็มีความนิยมในการเลี้ยงปลากัดกันมากจนถึงขั้นมีการก่อตั้งเป็นสมาคมผู้นิมปลากัด(IBC) และมีการจัดการประกวดปลากัดสวยงามกัน ตลอดทั้งปีเรียกว่าเดินสายประกวดกันทั่วโลก แต่เราคนไทยกลับให้คุณค่าความสวยงามของปลากัดเป็นเพียงปลาของนักเลงการพนันชาวบ้านคนกลุ่มล่าง ขาดการ สนับสนุนแบบนี้แล้วปลาไทยที่มีชื่อไทยในตลาดโลกจะเป็นอย่างไร หรือเราต้องรอให้ต่างชาติเขาเอาปลาไทยของเราไปหากินกันจนร่ำรวยแล้วค่อยกลับมาคิดได้ว่า นี่มันปลาของเรานี่หว่า....เพราะถึงเวลานั้นมันก็สายเกินไปแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตำนานปลากัดไทย

ปลากัดป่า Betta splendensหรือบางคนเรียกว่าปลากัดลูกทุ่ง

อันนี้สุดแล้วแต่จะเรียกกันนะครับ สำหรับปลากัดป่าลำตัวจะค่อนข้างบาง มีสีน้ำตาลขุ่นหรือเทาแกมเขียว ปลาป่านี่ถือว่าเป็นปลาที่มีมานานตามธรรมชาติในสมัยก่อนนักเลงปลากัดก็นิยมเอามาใช้เลี้ยงกัดในเกมกัดปลาเหมือนกัน เพราะมีความปราดเปรียวและว่องไวแต่เรื่องน้ำอึดน้ำทนในการกัดแล้วอาจจะน้อยกว่าปลากัดหม้อ ปลากัดป่าเป็นปลาที่หาง่าย(ในสมัยก่อนนะ)โดยสามารถหาได้ตามห้วยหนองคลองบึง ตามแหล่งน้ำทั่วไปตามคันนาก็ยังสามารถหาได้ แต่ในสมัยนี้อาจจะหายากกว่าเดิมเพราะว่าสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยน เมื่อก่อนตอนผมเป็นเด็กการจะหาปลากัดก็จะหาได้ตลอดทุกฤดูแต่ให้ดีหน่อยก็ช่วงฤดูฝน เพราะจะมีน้ำเยอะและปลากัดจะชอบทำหวอดอยู่บริเวณริมน้ำ สังเกตเห็นง่ายมากแถมเจ้าของหวอดก็จะว่ายวนเวียนเป็นปลาหวงถิ่นอยู่แถวๆนั้นบางครั้งก็อยู่ใต้หวอด ผมใช้สวิงหรือบางครั้งก็ตระกร้าเล็กๆที่มีรูตักพรวดได้มาแล้วหนึ่งตัว... แต่บางครั้งก็ใช้มือจับก็ได้ครับค่อยๆวางมือลงน้ำทั้งสองข้างแล้วค่อยช้อนเข้าหากัน เจ้าปลากัดด้วยความเป็นปลานักสู้มันไม่ยอมถอยง่ายๆครับมันจะว่ายน้ำนิ่งๆเพื่อปกป้องอนาเขตและประกาศให้ศัตรูมันรู้ว่านี่ถิ่นตูนะเฟ้ย...มันก็เลยโดนจับมาง่ายๆด้วยประการฉะนี้แลแต่ในปัจจุปันปลากัดป่าหายากกว่าสมัยก่อน ดังนั้นจึงได้มีฟาร์มและผู้เพาะเลี้ยงปลากัดป่าเป็นอาชีพเกิดขึ้นมาแทน และยังได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความสวยงามละหลากหลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


ปลากัดหม้อหรือบางครั้งก็เรียกปลาลูกหม้อ ปลากัดไทยครีบสั้น
เรียกกันเสียหลายชื่อ แต่ที่นิยมกันและเข้าใจกันง่ายสุดก็ปลากัดหม้อนี่ล่ะ ปลากัดหม้อจะมีความแตกต่างจากปลากัดป่าตรงที่ขนาดรูปร่างลำตัวโตกว่าปลาป่า ปากมีขนาดใหญ่และหนา สีเดิมของปลากัดหม้อก็จะเป็นสีเข้ม เช่น สีน้ำเงิน สีดำ สีเขียว สีแดง สีเทา สมัยก่อนนั้นนิยม
ใช้ในเกมการกัดปลา(ที่จริงสมัยนี้ก็ยังนิยม) เพราะมีความอดทนกว่าปลาป่า กัดเก่งและหนักกว่า จึงเป็นที่ถูกใจนักเลงปลากัดมาตลอด สำหรับปลากัดหม้อไม่ใช่ปลาที่มีอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติแต่เป็นปลาที่คาดว่าจะมีการพัฒนาสายพันธุ์มาแต่โบราณโดยเน้นเรื่องเกมการกัดปลา แต่ในสมัยนี้ปลากัดหม้อได้ถูกพัฒนามาเป็นปลากัดสวยงามและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ อีกทั้งตอนนี้ปลากัดหม้อก็ยังถือเป็นปลาส่งออกที่มีอัตราการสั่งจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นทุกปี

ปลากัดจีน หรือปลากัดไทยครีบยาว หรือที่ฝรั่งเรียกว่า"ปลากัดสยาม siamese fighting fish"

ปลากัดจีนเป็นปลาที่มีที่มาของชื่อหลากหลาย บางตำราก็ว่ามาจากชุดงิ้วของอุปรากรณ์จีน บ้างก็ว่ามาจากคนจีน บางคนก็บอกว่ามาจากเวียดนามแต่ที่แน่ๆปลากัดจีนเป็นปลาไทยชัวร์ครับ โดยคาดว่าเริ่มมาจากการที่มีผู้พยามพัฒนาคัดสายพันธุ์ปลากัดโดยเน้นความสวยงามเพื่อเอาไว้เลี้ยงดูเล่น มากกว่าที่จะเอามาเป็นปลานักสู้และเจ้าปลากัดจีนนี่ล่ะครับเป็นปลาที่ถูกจำหน่ายเป็นปลาสวยงามส่งออกมากที่สุด และในปัจจุปันปลากัดจีนก็ได้รับการพัฒนาออกมาจนแตกแยกออกเป็นอีกหลายหลายชนิด และมีความหลากหลายมาก จนเป็นที่นิยมเพาะเลี้ยงกันทั่วโลก
น่าภูมิใจมั้ยครับที่ปลากไทยแท้ๆได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วโลก แล้วเราคนไทยล่ะ...ให้ค่าความสำคัญของความเป็นไทยนี้แค่ไหน


ครั้งหน้าคงจะมีเรื่องราวปลากัดมาเล่าสู่กันฟังอีกครับ และสำหรับปลาสวยงามชนิดอื่นๆก็คงจะมีเรื่องเล่ามาคุยกันยังไงก็ติดตามกันเรื่อยๆนะครับ


วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ปลากัดไทย มรดกไทย มรดกโลก



ตลอดชีวิตของผมตั้งแต่เกิดมานี่จำได้ว่าผูกพันอยู่กับสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว นก ไก่ ปลา รวมถึงสัตว์แปลกๆอีกหลายชนิด จะบอกว่าเคยลองเลี้ยงมาแทบจะทุกอย่าง เป็นเพราะเป็นคนรักสัตว์ด้วยเลยทำให้ที่บ้านผมต้องเลี้ยงสัตว์ไว้ตลอด ตัวหนึ่งตาย ตัวอื่นก็เข้ามาใหม่ เลี้ยงกันจนบางครั้งผมก็งงเหมือนกันว่าจะเลี้ยงทำไมมากมาย แต่หากจะนับว่าสัตว์ที่ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษคงจะมีอยู่ไม่กี่ชนิด ก็ได้แก่ ปลาและแมว อันที่จริงสัตว์สองชนิดนี้มันไม่ควรเลี้ยงคู่กันสักเท่าไหร่ แต่ก็นั่นล่ะครับ ผมชอบ

ปลากัด ปลาที่คนไทยเราคุ้นเคยกันมาแต่โบราณ เป็นเกมกีฬากิจกรรมยามว่างหลังจากการทำสวนไร่นาเสร็จแล้ว ปลากัดเป็นปลาที่แปลกและมีเสน่ห์เพราะมันมีทั้งความสวยงามและก้าวร้าวอยู่ในตัวของมันเอง ดังนั้นการเลี้ยงปลากัดจึงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ส่วนอีกกลุ่มก็เลี้ยงเพื่อเป็นเกมกีฬากัดปลา ซึ่งทั้งสองกลุ่มก็มีวิธีการเลี้ยงที่แตกต่างกันออกไป และนั่นคือความสนุกในการเลี้ยงปลากัด แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เลี้ยงกลุ่มไหน คุณก็เป็นคนที่ชื่นชอบปลากัดเหมือนกัน

ปลากัด Fighting fish มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens Regan.เป็นปลาพื้นเมืองดั้งเดิมของประเทศไทย ปลากัดเป็นปลาที่ชอบอยู่ตามแหล่งน้ำนิ่ง ชอบว่ายน้ำช้าๆบริเวณผิวน้ำ อาศัยอยู่ในแหล่น้ำไม่ว่าจะเป็นหนอง บึง แอ่งน้ำ ลำคลอง รวมถึงอ่างเก็บน้ำบริเวณที่น้ำตื้นๆและค่อนข้างใส
ปลากัดเป็นปลาขนาดเล็ก หัวเล็ก มีกระดูกที่ด้านหน้าของตาเรียบ และมีอวัยวะพิเศษในการหายใจนอกจากเหงือก ซึ่งเรียกกันว่า Labyrinth organ ซึ่งอยู่ในโพรงอากาศช่องหลังเหงือก มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อมีรอยหยักและมีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยง ซึ่งทำให้ปลากัดสามารถอยู่ในน้ำที่มีสภาพออกซิเจนน้อยได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันอยู่ในน้ำสกปรกไร้ออกซิเจนได้อย่างที่หลายคนเข้าใจ
การเพาะเลี้ยงปลากัดของคนไทยนั้นมีมานานมากราวๆ150ปี ซึ่งเป็นการละเล่นที่ชายชาวสยามในสมัยก่อนให้ความสำคัญเท่าๆกับไก่ชน จนมีสำนวนเรียกกันว่า นักเลงไก่ชนและนักเลงปลากัด แต่ในสมัยก่อนนั้นการเล่นพนันกัดปลาไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายนะครับแต่การจะเล่นกัดปลาก็ต้องได้รับอนุญาตจากทางการเหมือนกันไม่ใช่จะเล่นยังไงก็ได้
ดังนั้นปลากัดจึงเป็นปลาสวยงามที่มีคนเพาะเลี้ยงมากที่สุดของไทยและเป็นปลาที่มีมูลค่าการส่งออกนำเงินเข้าประเทศปีหนึ่งหลายสิบล้านบาท ... วันนีเอาไว้แค่นี้ก่อนครั้งหน้าผมจะมาอับเดทข้อมูลเรื่องนี้อีกครับ