Goooooogle Analytics

fancyfish

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปลาทอง ซีทรู gold fish

siamese fighting fish,betta fish,fancyfish,Fighting fish,Betta splendens,fancy fish,gold fish,arowana,pet,pet shop,dog,dog training,cat,ปลาสวยงามของไทย,ปลากัด,ปลาหางนกยูง,ปลาหมอสี,ปลาทอง,ปอมปาดัวร์,อะโรวาน่า,ข่าวสารปลาสวยงาม,การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม,ธุรกิจปลาสวยงาม,>HTML clipboard“ปลาทองซีทรู” ใสทะลุถึงอวัยวะภายใน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ธันวาคม 2552 16:58 น.


ปลาทองซีทรู สัตว์น้ำพันธุ์ใหม่ที่จะช่วยให้ไม่ต้องชำแหละเพื่อการศึกษา

เอเอฟพี - หลังจากครั้งแรกที่ค้นคว้า และสร้างกบซีทรูได้ นักวิจัยญี่ปุ่นก็ยังประสบความสำเร็จในการผลิตปลาทอง ที่สามารถมองเห็นการเต้นของหัวใจทะลุผ่านเกล็ด และหนังที่โปร่งใสได้อีกครั้ง

สัตว์โปร่งใสเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดความจำเป็นใน การผ่าชำแหละสัตว์เหล่านั้น ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโรงเรียนต่างๆ “คุณสามารถเห็นหัวใจเต้น และอวัยวะอื่นๆได้ เนื่องจากเกล็ด และหนังปลาไม่มีเม็ดสี” ยูตากะ ทามารุ รองศาสตราจารย์ภาควิชาชีววิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมิเอะกล่าว “คุณไม่จำเป็นต้องผ่าชำแหละมัน คุณสามารถเห็นสมองเล็กๆเหนือตาสีดำของปลาทองได้เลย”

ทีมนักวิจัยร่วมของมหาวิทยาลัยมิเอะ และนาโกยา สร้างปลาทองริวกินโปร่งแสง จากการเลือกไข่ปลาทอง ที่หนังไม่มีสี และเพาะพันธุ์มันขึ้นมา โดยปลาซีทรูเหล่านี้น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ราวๆ 20 ปี และเติบโตได้มากสุด 25 เซนติเมตร หนัก 2 กิโลกรัม ซึ่งจะใหญ่กว่าปลาทั่วไป ที่ใช้ในการทดลอง เช่น ปลามังกร หรือปลาเมดากะของญี่ปุ่น
ด้านทีมนักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกาศว่าสามารถพัฒนากบซีทรูได้ในปี 2007 เผยว่า พวกเขามีแผนจะเริ่มขายเจ้าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 4 ขา ที่มีหนังโปร่งใสตั้งแต่ระยะที่เป็นลูกอ๊อด ภายในครึ่งปีแรกของปีหน้า ให้แก่ห้องทดลอง และโรงเรียนใช้ในการศึกษาวิจัย รวมถึงขายเป็นสัตว์เลี้ยง ในราคาที่คาดว่าไม่น่าจะเกิน10,000 เยน หรือ ไม่เกิน 3,700 บาท

พอดีผมเห็นข่าวนี้ก็เลยเอามาลงกันให้อ่านครับเพื่อใครบางคนอาจจะไม่เคยได้อ่านข่าวนี้ แต่ตอนเด็กๆผมอยู่ต่างจังหวัดปลาตัวใสๆเห็นก้างนี่มีเยอะครับ ผมเรียกปลาคาบของ หรือแม้นแต่ปลาก้างพระร่วงก็ตัวใสนะ แล้วปลาตัวใสแบบนี้ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของยีนด้อยมากกว่า หมือนพวกปลาบางชนิดที่ยีนสีด้อย อย่างปลากัดก็มี สีแนวๆนี้ล่ะครับ เราเรียกกันว่าปลากัดแฟนซี แต่ตัวนี้เขาเรียกหรูกว่าเราว่าเป็นปลาซีทรู แต่ดูๆไปก็สวยดีครับ แต่จะขายตั้ง3,700 มันน่าจะทำเป็นโตซากิ้นซีทรูนะครับคุณพี่ยูกาตะ ทามารุ

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การเพาะเลี้ยงปลาหน้าหนาว

siamese fighting fish,betta fish,fancyfish,Fighting fish,Betta splendens,fancy fish,gold fish,arowana,pet,pet shop,dog,dog training,cat,ปลาสวยงามของไทย,ปลากัด,ปลาหางนกยูง,ปลาหมอสี,ปลาทอง,ปอมปาดัวร์,อะโรวาน่า,ข่าวสารปลาสวยงาม,การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม,ธุรกิจปลาสวยงาม,

การเพาะเลี้ยงปลาหน้าหนาว




การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม




การเพาะเลี้ยงปลาสวยงามโดยปกติแล้วเรามักไม่นิยมเพาะปลาในช่วงหน้าหนาวเพราะว่ามักจะไม่ค่อยผสมพันธุ์หรือหากมีการผสมพันธุ์ลูกปลาที่ออกมาก็มักจะไม่ค่อยแข็งแรงและมีโอกาสรอดน้อยกว่าปกติ
อีกทั้งในช่วงเดือน
พย.-มค.นี้อากาศในต่างประเทศทางแถบยุโรปและอเมริกาซึ่งเป็นตลาดปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดจะมีอากาศหนาวเย็นดังนั้นยอดการสั่งออเดอร์ก็จะลดลงไปด้วยแต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้นปัญหาจึงมักเกิดกับผู้ที่ทำธุรกิจเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและการส่งออกปลาสวยงาม
เพราะต้องเตรียมปลาไว้เพื่อให้สามารถส่งได้ตามออเดอร์ที่จะเข้ามา
แต่ว่าผู้เพาะเลี้ยงเองก็ไม่สามารถผลิตจำนวนปลาได้มากเพียงพอกับความต้องการของตลาดเพราะเป็นช่วงหน้าหนาว



แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้คุยกับคุณนธี อุปนายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดสยาม
และเป็นคนแรกที่พัฒนาสายพันธุ์ปลากัดยักษ์จนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกเวลานี้
โดยคุณนธีได้มาใช้และปคุยถึงปัญหาดังกล่าวว่า
เป็นปัญหาที่ตัวคุณนธีเองก็เคยประสบมาเหมือนกันแต่ก็ได้หาวิธีการแก้ไขมาโดยตลอด
และวิธีที่คุณนธีนำมาใช้และประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
นั่นก็คือการควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้พอเหมาะกับสภาพของการผสมพันธุ์ปลากัด
โดยใช้หลอดไฟนีออนในการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำในบ่อ
เพราะทั่วไปผู้ที่เพาะเลี้ยงปลากัดรวมถึงปลาสวยงามชนิดอื่นๆมักจะใช้รองปูนในการเลี้ยงปลา
โดยวิธีการคือคุณนธีจะเอาหลอดไฟมาต่อแล้ววางไว้ข้างขอบบ่อในช่วงกลางคืน
เมื่อปูนได้รับความร้อนจากหลอดไฟก็จะทำให้อุณหภูมิของน้ำในบ่ออุ่นขึ้นทำให้อัตราการผสมพันธุ์และการรอดของลูกปลาเพิ่มขึ้น
และสามารถอนุบาลลูกปลาให้โตทันจับขายได้พอดีกับช่วงความต้องการของตลาดในช่วงปลายเดือนมกกราคม

กล่องโพมสำหรับอนุบาลลูกปลา
แต่หากท่านใดคิดว่ามันสิ้นเปลืองผมก็มีอีกวิธีซึ่งก็ได้ผลเหมือนกันนั่นคือใช้วัสดุอย่างกล่องโพมก็พอได้ครับแต่อัตราการรอดก็คงจะน้อยกว่าแบบแรก
สำหรับวิธีการที่ผมเอามาเล่าให้ฟังน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังคิดจะเพาะปลาหน้าหนาวแม้บางคนอาจจะบอกว่ามันเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่หากทำธุรกิจเราก็คงต้องพร้อม
เสมอกับความต้องการของลูกค้า




ประกาศขอความช่วยเหลือดนิดหนึ่งครับตอนนี้ผมกำลังจะเปิดเวปไซด์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาสวยงามโดยเฉพาะที่www.thaifancyfish.com
เพื่อนท่านใดมีเรื่องราวดีๆในการเลี้ยงปลาหรือรูปปลาสวยๆอยากจะเล่าจะโชว์ก็ส่งมาให้ผมบ้างก็ได้นะครับที่เมล์ของผม
หรือจะไปโพส์ไว้ในกระทู้ของเวปก็ได้ เพราะผมไม่ใช่ผู้เก่งกาจอะไรจึงต้องการคนเก่งมาช่วยกันครับ
มาช่วยกันนะครับเพื่อพัฒนาวงการปลาสวยงามของไทย